ถ้าเพื่อนๆคนอ่านเข้ามาคลุกคลีในโลกคริปโตสักพักแล้ว เพื่อนๆคงเคยได้ยินเกี่ยวกับหัวข้อ Staking กันมาบ้างแล้ว ส่วนตัวผมก็เคยงงกับไอ้คำว่า staking นี้ว่าที่แท้จริงมันคืออะไร และยังเห็นว่าหลายๆคนอาจจะยังมีความเข้าใจที่ผิดอยู่ วันนี้ก็เลยอยากมาอธิบายเพื่อไขความข้องใจกันนะครับ
Staking คืออะไร และทำไปเพื่ออะไร?
นิยามสั้นๆของคำว่า Staking ขอแปลเป็นไทยว่า การผูกเหรียญ หรือ การนำเหรียญที่มีอยู่เอาไปผูกไว้กับระบบ (Protocol ที่ใช้ Proof of Stake) เพื่อที่ว่าจะขอมีส่วนร่วมในการตรวจสอบธุรกรรมบนบล้อคเชนต์ ทีนี้ทางระบบก็จะมีการให้ Staking Rewards หรือคล้ายๆกับการให้ดอกเบี้ยกับเหรียญที่คุณได้ผูกไว้ เพื่อเป็นการตอบแทนที่คุณไปมีส่วนช่วยให้ระบบมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ทีนี้แต่ละระบบก็มีข้อจำกัดต่างกันไป บาง Protocol เหรียญที่คุณผูกจะถูกล๊อคเอาไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งๆ
ทำ Staking แล้ว ปลอดภัยไหม ต้องเสี่ยงอะไรบ้าง?
ปลอดภัย 100% ครับ ยิ่งถ้าคุณทำธุรกรรมจาก Wallet ของคุณเอง (ไม่ได้ stake ผ่าน exchange) การที่เรานำเหรียญไปผูกไว้กับระบบนี้เหรียญของคุณ (เงินต้น) จะไม่ได้ถูกย้ายออกจากกระเป๋าตังค์ของคุณเลย ส่วนที่คุณจะรับความเสี่ยงก็คือส่วนของดอกเบี้ยหรือเงินรางวัลที่คุณจะได้จาก Staking เท่านั้นครับ เช่นถ้าคุณไป Stake กับ Node ที่ไม่มีประสิทธิภาพ คนที่ทำเดินงานไม่ซื่อสัตย์ ตัวดอกเบี้ยที่น่าจะได้ก็อาจถูกตัดทอนลดลง (slashing) ซึ่งผมจะเจาะลึกลงไปในการเลือก validator node ในโพสต่อๆไปนะครับ
ทำ Staking ผ่าน Exchange กับ Staking จากกระเป๋าตังค์ส่วนตัว มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันยังไง?
การทำ Staking ผ่าน Exchange ก็เหมือนกับคุณนำเงินไปฝากธนาคาร และธนาคารก็ให้ดอกเบี้ยคุณมานะครับ ธนาคารก็ต้องคิดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่างๆ ดอกเบี้ยที่ได้เพิ่มขึ้นก็อาจจะไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ข้อดีก็คือ ความสะดวกสบาย และการที่คุณสามารถที่จะขายเหรียญออกไปได้โดยไม่ต้องย้ายจากกระเป๋าตังค์ส่วนตัวไปที่ Exchange อีกทั้งตัว Exchange ก็อาจจะยกเว้นการล๊อคเหรียญในบางกรณีทำให้ความคล่องตัวของเหรียญมีสูงกว่า ส่วนข้อเสียหลักๆนอกจากคุณจะไม่ได้รับดอกเบี้ยเต็มแล้ว คุณก็อาจจะต้องรอรางวัลที่ได้นานกว่าปกติ
รางวัล หรือ Staking Rewards น่าจะได้เท่าไหร่
ตัวรางวัลที่ได้จะเปลี่ยนไปตามตัวแปรหลายๆตัวครับ เช่น ระบบไหน (Protocol), ผูกตรงหรือผูกผ่านนายหน้า (staking directly or through exchange) เป็นต้น ซึ่งแต่ละระบบจะให้ไม่เท่ากัน นายหน้าแต่ละเจ้าก็จะเก็บค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่น สำหรับคนที่ผูกเหรียญ ADA ตรงกับทางระบบ Cardano ก็ประเมินว่าจะได้รับดอกเบี้ยประมาณ 4-6% ต่อปีครับ ซึ่งจำนวนที่ได้จริงอาจจะแตกต่างกับตัวเลขที่เห็นอยู่พอสมควร เพราะยังมีตัวแปรอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องอีกมาก คงต้องยกไปคุยกันโพสหน้าครับ